การคัดเลือกพันธุ์ข้าวคุณภาพ โดยวิธีการคัดมาจากข้าวกล้อง
ความสำคัญของเมล็ดพันธุ์การเพาะปลูกข้าวในปัจจุบัน เกิบทั้งหมดปลูกเพื่อการค้า จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุน ข้าวต้นหนึ่งเป็นเสมือนเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง เมื่อใส่วัตถุดิบเข้าไปในปริมาณที่เท่ากัน ผลผลิตที่ได้จากเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จะมีการสูญเสียน้อย ได้ผลผลิตมากกว่า และคุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งการปรับปรุงพันธุ์ข้าวมีหลายวิธี ได้แก่ การรวบรวมปลูกทดสอบคัดเลือกหาพันธุ์ดี การผสมพันธุ์ การฉายแสงการตัดต่อพันธุกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการและระบบการผลิตนั้นๆ
การคัดเลือกพันธุ์ข้าวทั่วไป
เป็นการเลือกต้นข้าวที่มีลำต้นแข็งแรงสมบูรณ์ ต้นสูงสม่ำเสมอ ออกรวงและสุกแก่พร้อมกัน ระแง้ถี่ การติดเมล็ดดีและรวงยาว ไม่มีโรคแมลงรบกวน ซึ่งการคัดเลือกวิธีนี้ สามารถคัดเลือกจากลักษณะภายนอกเปลือกเท่านั้น แต่พบว่า ยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพภายในเมล็ด เช่น การเป็นท้องไข่ ความมันวาวของเมล็ด สีของข้าวไม่ตรงตามพันธุ์ ข้าวปน ข้าวดีด เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าว ทางมูลนิธิขวัญข้าวจึงได้มีการพัฒนาต่อยอดจากวิธีการคัดเลือกพันธุ์ข้าวแบบทั่วไปเป็นการคัดเลือกพันธุ์จากข้าวกล้อง เพื่อแก้ปัญหาภายในเมล็ดข้าวดังกล่าว
ขั้นตอนการคัดเลือกพันธุ์ข้าว
จากข้าวกล้องเริ่มจากเลือกพันธุ์ข้าวที่ต้องการ จากนั้น กะเทาะเปลือกข้าวเพื่อแยกเปลือกและเมล็ดข้าวกล้องออกจากกันส่วนเปลือกข้าวเรียกว่าแกลบ และส่วนที่เป็นเมล็ดข้าวเรียกว่าข้าวกล้อง ซึ่งภายในข้าวกล้องประกอบด้วยแป้ง เยื่อหุ้มเมล็ดและจมูกข้าวหรือคัพภะ ซึ่งในส่วนนี้จะเจริญเป็นต้นกล้าต่อไป การกะเทาะเมล็ดข้าวเปลือกทำได้หลายวิธี เช่น การแกะด้วยมือ เป็นวิธีการที่ประหยัด ควรแกะด้านหางของเมล็ดเพื่อป้องกันคัพภะหรือจมูกข้าวหลุด ซึ่งจะทำให้ข้าวไม่งอก การใช้เครื่องสีข้าวกล้อง เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว แต่ควรปรับลูกยางให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้ข้าวกล้องหักหรืออาจทำให้จมูกข้าวหลุดได้
การคัดข้าวกล้อง
ให้นำข้าวกล้องที่ได้มาทำการคัดให้ได้ลักษณะข้าวกล้องตรงตามชนิดพันธุ์ ทั้งขนาด รูปร่าง เมล็ด ข้าวกล้องที่คัดเลือกแล้วจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดทุกเมล็ด โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการคัดข้าวได้แก่ ปากคีบ แว่นขยาย ถุงซิป ปากกาเคมี เป็นต้น และที่สำคัญต้องมีแสงสว่างเพียงพอ ลักษณะของข้าวกล้องที่ดีประกอบด้วย
การเลือกตามชนิดพันธุ์
เช่น ข้าวเจ้าข้าวกล้องจะมีสีขาวใส ข้าวเหนียวกล้องจะมีสีขาวขุ่น ยกเว้นพันธุ์ที่มีสีต่างๆ เช่น มะลิแดง ข้าวกล้องจะมีสีแดง ภายในเมล็ดใส ถ้าเป็นข้าวเหนียวดำ ข้าวกล้องจะมีสีดำ ภายในเมล็ดขาวขุ่น รูปร่างและขนาดของเมล็ดเรียวยาว หัวท้ายเมล็ดเท่ากัน เมล็ดไม่บิดเบี้ยวหรือแตกร้าว ควรเลือกเมล็ดที่มีผิวตึง มันวาว จมูกข้าวกล้องเล็กและไม่หลุดจากเมล็ดข้าวกล้อง ไม่มีท้องไข่หรือท้องปลาซิว การเพาะข้าวกล้อง วัสดุที่ใช้ได้แก่ ทรายหยาบ จานรอง กระดาษ หนังสือพิมพ์ บัวรดน้ำ โดยมีขั้นตอนการเพาะ คือ ใช้กระดาษรองให้พอดีกับก้นกระถาง ใส่ทรายหยาบลงในกระถางประมาณ 3 ใน 4 ส่วน โรยเมล็ดข้าวกล้องที่คัดแล้ว กลบด้วยทรายหยาบครึ่งเซนติเมตร นำกระถางวางบนจานรอง รดน้ำในจานรองเพื่อป้องกันมดและช่วยรักษาความชื้นภายในกระถาง นำไปวางที่แสงแดดส่องถึงประมาณ 3-5 วัน ข้าวกล้องจะเริ่มงอก หมั่นดูแลเติมน้ำในจานรองอย่าให้แห้ง เขียนชื่อ พันธุ์ วัน เดือน ปี ที่เพาะข้าวติดข้างกระถางหลังจากข้าวกล้องงอก 15 วัน ควรย้ายต้นกล้าลงกระถางใหญ่ หรือแปลงขยาย หากย้ายช้าจะทำให้ต้นกล้าตาย เนื่องจากขาดธาตุอาหาร การปักดำ
ปักดำด้วยกล้าเพียงต้นเดียวต่อจับ
เพื่อศึกษาศักยภาพในการเจริญเติบโต การแตกกอ ความสามารถในการต้านทานโรค แลง การให้ผลผลิต จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในแต่ละกอ ซึ่งสามารถคัดเลือกหาข้าวที่มีลักษณะดีได้สะดวกยิ่งขึ้น การปักดำขยายทำได้หลายแบบ หากมีต้นกล้าน้อยให้ปักดำในกระถาง ต้นกล้ามากปักดำลงแปลงนา ขึงเชือกจัดแถวระยะปักดำ 30x30 เซนติเมตร ปักดำข้าวกล้า 1 ต้นต่อจับเท่านั้น เว้นระยะห่างแปลงแต่ละพันธุ์ประมาณ 1 เมตร ติดป้ายชื่อทุกพันธุ์เพื่อป้องกันการปะปนพันธุ์ในกรณีมีข้าวหลายพันธุ์ การเก็บเกี่ยวพันธุ์
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกข้าวจากกอเพื่อทำพันธุ์คือ
ลักษณะตรงตามพันธุ์ ทรงกอดี การเจริญเติบโตเด่นในกลุ่ม ออกรวงพร้อมกันทั้งกอ รวงใหญ่ยาว ระแง้ถี่ การติดเมล็ดดี เมล็ดลีบน้อย ให้ผลผลิตสูง ต้านทานโรคและแมลงได้ดี เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ปลูก เช่น พื้นที่ลุ่ม ที่ดอนหรือดินเค็ม เป็นต้น
การนวดข้าว
คัดเลือกรวงข้าวที่มีรวงยาว การติดเมล็ดดี เมล็ดสมบูรณ์
ไม่เป็นโรคนวดรวมกันในแต่ละกอกับเมล็ดพันธุ์แยกแต่ละกอ เขียนชื่อพันธุ์ วัน เดือน ปี ที่เก็บเกี่ยว ตากแดดให้แห้งสนิทประมาณ 1-2 แดด เก็บเมล็ดพันธุ์ใส่ถุงผ้าหรือถุงกระสอบติดป้ายชื่อ นำไปเก็บไว้ในโรงเก็บเมล็ดที่อากาศถ่ายเทได้ดี รอช่วงการพักตัวของเมล็ดประมาณ 1 เดือน เพื่อรอปลูกในรุ่นต่อไป
ที่มา sanook.com