ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ
ไปดูการปลูกมะกรูดระยะชิด ของ ชมรมผู้ปลูกมะกรูดตัดใบเพื่อการค้า
คนรุ่นใหม่ที่ทำให้มะกรูดเติบโตทั้งการผลิตและการตลาด
มะกรูด...ไม้นอกสายตาที่หลายคนอาจจะมองข้ามความสำคัญมาโดยตลอด นั่นเพราะช่วงที่ผ่านการปลูกมะกรูดเชิงการค้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแทบไม่มีให้เห็นบ่อยนัก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยมองมะกรูดไกลไปกว่าส่วนประกอบหลักของเครื่องต้มยำคู่ข่า ตะไคร้เลย คนที่ปลูกมะกรูดจึงจำกัดอยู่ในวงแคบเพราะคิดว่าตลาดแคบ หากเข้าไปสัมผัสจริงๆแล้วจะรู้ว่ามะกรูดเป็นพืชที่มีปริมาณการใช้มากทีเดียว นอกจากการบริโภคใบสดที่เราคุ้นเคยโดยเฉพาะ เมนูต้มยำที่ได้รับความนิยมทั้งคนไทยและต่างชาติจนกลายเป็นเมนูระดับนานาชาติ ทำให้ความต้องการของชุดต้มยำซึ่งมีใบมะกรูดเป็นส่วนประกอบหลักเพิ่มสูงมากขึ้น นอกจากนี้โรงงานแปรรูปต่างๆ ทั้งโรงงานผลิตน้ำพริก เครื่องแกง โรงงานผลิตน้ำมันหอมระเหย รวมถึงบริษัทส่งออกที่ต้องการใบมะกรูดสดเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศที่มีความต้องการใบมะกรูดปริมาณมาก จนทำให้เกษตรกรใช้เครื่องมือการเกษตรที่ปลูกมะกรูดในวันนี้สามารถสร้างรายได้ดีไม่แพ้พืชอื่นเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจก็คือ วันนี้ คนรุ่นใหม่ที่หันมาปลูกมะกรูดเชิงการค้าจนประสบความสำเร็จหลายท่าน ก๊วนนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในวงการเกษตรเลย แต่ด้วยใจรักจึงเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง พร้อมกับรวมตัวกันก่อตั้ง ชมรมผู้ปลูกมะกรูดตัดใบเพื่อการค้า เพื่อเดินหน้าพืชชนิดนี้ ทั้งการผลิตและการตลาด ให้มะกรูดก้าวสู่พืชเศรษฐกิจที่มีตลาดรองรับกว้างขวางเช่นเดียวกับพืชชนิดอื่น
เหตุผลที่ทำให้หลายคนสนใจมะกรูดก็เพราะมะกรูดเป็นพืชที่มีจุดเด่นหลายประการโดยเฉพาะ ปลูกง่าย การดูแลไม่มาก น่าจะเหมาะกับเกษตรกรมือใหม่อย่างพวกเขามากกว่าพืชอื่น ในด้านตลาดมะกรูดก็มีความต้องการสูงแต่ยังไม่มีการปลูกเชิงการค้าจริงจัง โอกาสด้านตลาดก็น่าจะมีมาก
ก๊วนนี้เข้าอบรมการปลูกมะกรูดระยะชิดกับ อ.รวี เสรฐภักดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน หลังการอบรมก็ค่อนข้างมั่นใจกับพืชชนิดนี้ การปลูกมะกรูดยุคใหม่จะใช้ระยะชิด โดยใช้ระยะปลูก 50X50 ซม. ปลูกแบบสลับฟันปลา ซึ่งระยะนี้ถ้าปลูกเต็มพื้นที่จะได้ 4,500 ต้น/ไร่ แปลงปลูกจะยกร่องกว้าง 1 แมตร แล้วปลูก 2 แถวบนร่อง ที่ต้องยกร่องเพราะมะกรูดไม่ชอบน้ำขังและไม่ทนน้ำท่วม ส่วนของระบบน้ำใช้น้ำหยด โดยมีอัตราการจ่ายน้ำชั่วโมงละ 1.5 ลิตร แต่จะเปิดน้ำนานประมาณ 20-30 นาที และติดตั้งสปริงเกลอร์ไว้ด้านบนเพื่อช่วยเพิ่มความชื้นในช่วงที่อุณหภูมิสูง มาก
ในส่วนของปุ๋ยจะจ่ายปุ๋ยผ่านเทปน้ําหยด แต่สามารถให้ปุ๋ยทางดินแบบโรยข้างต้นได้หากไม่ได้ใช้ระบบน้ำหยดค่ะ โดยผสมปุ๋ยใช้เองจากแม่ปุ๋ย 3 ตัว คือ 46-0-0,12-60-0 และ 0-0-60 สัดส่วนของปุ๋ยที่ใช้อยู่ที่ 5:1:4 ใช้สูตรนี้ตลอด โดยเพิ่มปริมาณขึ้นตามขนาดของต้น อย่างต้นเล็กจะให้อัตรา 3 กรัม/ต้น/อาทิตย์ ต้นโตก็จะให้ปุ๋ย 5 กรัม/ต้น/อาทิตย์ นอกจากนี้ก็จะให้น้ำขี้หมูเสริม โดยใช้อัตรา 100 ลิตร/ไร่/ครั้ง การให้ปุ๋ยสามารถปรับได้หากไม่ได้ใช้น้ำหยดค่ะ ก็ใส่ปุ๋ยสูตรสำเร็จอย่าง 16-16-16 ที่ขายทั่วไปได้ค่ะ หรือจะผสมปุ๋ยตามแบบของกลุ่มก็ได้ค่ะ
การตัดแต่งกิ่งมะกรูดเพื่อจำหน่ายในครั้งแรกนับว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะจะมีผลอย่างมากต่อการให้ผลผลิตของใบในชุดต่อไป โดยปกติการตัดกิ่งขายในแต่ละครั้งจะตัดกิ่งให้สูงจากพื้นดินขึ้นมา 60-80 ซม. จากนั้นมะกรูดจะแตกกิ่งใหม่ขึ้นมา ช่วงนี้แหละสำคัญ ต้องเลือกกิ่งกระโดงหรือกิ่งที่ทำมุมแคบกับลำต้น ซึ่งกิ่งลักษณะนี้จะเป็นกิ่งที่มีแนวโน้มที่จะให้ใบที่มีคุณภาพ นั่นคือ ใบมีขนาดใหญ่ และสวย ส่วนกิ่งที่ทำมุมองศากว้างจะมีแนวโน้มติดผลได้ จึงไม่ควรเลือกไว้ ส่วนกิ่งแขนงที่เหลือหลังจากคัดเลือกกิ่งคุณภาพแล้วตัดทิ้งให้หมด
มะกรูดหลังจากลงปลูกแล้วประมาณ 6-8 เดือนก็สามารถตัดกิ่งจำหน่ายได้ สวนมะกรูด บ้านคุณปู่ หนึ่งในสมาชิก บอกว่า ตอนนี้มีต้นที่ตัดใบขายได้แล้วประมาณ 9,000 ต้น หรือประมาณ 110 ร่อง ทยอยตัดทุกวัน วันหนึ่งประมาณ 4 ร่อง ปริมาณการตัดต่อวันประมาณ 100-130 กก. มะกรูด 1 ต้น จะให้ผลผลิตประมาณ 3-4 ขีด โดยหลังจากตัดใบขายแล้วจะใช้เวลาประมาณ 45-50 วันจึงจะกลับมาตัดได้ใหม่อีกครั้ง ในรอบ 1 ปี จะตัดใบได้ประมาณ 7-8 ครั้ง โดยผลผลิตจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
ในด้านการตลาดมะกรูดที่นี่เป็นที่ยอมรับว่าใบสวย คุณภาพดี คุณศิวาวุธเจ้าของสวนใช้ประสบการณ์ด้านต่างประเทศมาเปิดตลาดใบมะกรูดในต่างประเทศเอง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีในหลายประเทศ โดยใบอบแห้งจะส่งญี่ปุ่น อเมริกา ใบแช่แข็งส่งออสเตรเลีย โดยผลผลิต 90% ป้อนตลาดต่างประเทศ อีก 10% ส่งเข้าโรงงานน้ำพริกและอบแห้งเป็นส่วนประกอบในเครื่องเทศต่างๆ โดยราคาใบมะกรูดอยู่ที่ประมาณ 100 บาท/กก.
มะกรูด 1 ต้นจะตัดใบได้ต่อครั้งประมาณ 3-4 ขีด ถ้า 1 ไร่ 4,500 ต้น จะได้ประมาณ 1,300-1,500 กก.ต่อครั้ง ใบมะกรูดสวยๆสามารถสร้างรายได้มากถึง 4-5 หมื่นบาท/เดือนเลยทีเดียว ยิ่งใบมะกรูดที่ใบสวยยิ่งขายได้ราคาแพง 80-100 บาท/กก.เลยทีเดียว คุณศิวาวุธบอกว่า ตลาดซื้อ-ขายมะกรูดในบ้านเราจะนิยมแบบตัดเป็นกิ่ง มีทั้งกิ่งยาง กิ่งสั้น แต่ที่คุณศิวาวุธจะนิยมตัดกิ่งสั่น ความยาวของกิ่งประมาณ 1 คืบ หรือประมาณ 20 ซม. ราคาขายในช่วงทั่วไปก็จะอยู่ที่ 30-40 บาท/กก. ช่วงฝนใบมะกรูดจะมีราคาถูก ราคามะกรูดกิ่งก็จะอยู่ที่ 25-30 บาท ใบมะกรูดจะราคาแพงช่วงหนาว เพราะมะกรูดไม่ค่อยแตกกิ่งใบ ราคาจากสวนตอนนี้ 40-50 บาท/กก. ตลาดขายส่งอย่างตลาดไท สี่มุมเมืองขายกันที่ 70-80 บาท/กก.
เห็นรายได้จากมะกรูดแล้วนับเป็นพืชอีกชนิดน่าสนใจทีเดียว ตอนนี้ชมรมฯก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีกิจกรรมดีอยู่ตลอด ทั้งการส่งเสริมลูกไร่ปลูก ส่งเสริมการผลิตมะกรูดคุณภาพ ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการเปิดตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อขยายตลาดมะกรูดของบ้านเราให้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ตลาดมะกรูดของกลุ่มสมาชิกมีอนาคตที่สดใสและมีความยั่งยืนด้วย
สนใจพืชชนิดนี้ก็เข้าไปดูกิจกรรมดีๆ ข้อมูลดี ที่ เฟส ชมรมผู้ปลูกมะกรูดตัดใบเพื่อการค้า กันได้ค่ะ
ติดตามความรู้ด้านการเกษตรดีๆได้ที่ กลุ่มเกษตรก้าวใหม่ cr.Rakkaset Nungruethail
ใครสนใจเข้าไปศึกษาข้อมูล หรือ ต้องการซื้อขายก็เข้าไปที่กลุ่ม ชมรมผู้ปลูกมะกรูดตัดใบเพื่อการค้า ที่ลิ้งด้านล่างได้เลยคะ https://www.facebook.com/groups/420267128106159/
ช่วยกดแชร์ด้วยนะคะ